Last updated: 21 ธ.ค. 2565 | 433 จำนวนผู้เข้าชม |
เต็มอิ่มสุดประทับใจ 3 ชั่วโมงเต็ม กับ “ไนท์คลับ อิน เธียเตอร์” คอนเสิร์ตข้ามเวลา คุ้มค่ากับการรอคอย
ปิดจ๊อบลงไปอย่างสุดมันส์!! สำหรับ “ไนท์คลับ อิน เธียเตอร์” คอนเสิร์ตข้ามเวลา ที่ชาว เดอะ บิลบอร์ด (The Billboard) นำโดย ป้อม ออโต้บาห์น และ ชมพู ฟรุตตี้ นำสมาชิกของวง ประกอบด้วย แป๊ะ สเตทเอ็กซ์เพรส, แอ้นท์ เดอะ กลาส, นิต้า ชูก้าร์อายส์, หนุ่ม มิวสิคกูรู, สมพร ซินธ์แล็บ ขนเอาบทเพลงฮิตติดชาร์ต billboard แถมยังเป็นเพลงที่ติดหูมาตั้งแต่ปี 60, 70, 80, 90 ขึ้นมาเล่นบนเวทีกันอย่างเต็มอิ่ม สมกับการรอคอยของแฟนเพลงกันมาอย่างยาวนาน
เริ่มต้นที่การตกแต่งของงาน อบอวลไปด้วยบรรยากาศของไนท์คลับ ไม่ว่าจะเป็นระบบ แสง สี เสียง และที่นั่งชมดนตรี เรียกได้ว่า ยกเอาบรรยากาศของไนท์คลับแบบจริงๆ มาให้แฟนๆ เพลงทุกคนได้ระลึกนึกถึงกันอย่างเต็มที่ แถมยังมีฟลอร์ให้เต้นแบบใกล้ๆ ตัว ที่ดึงความรู้สึก ความทรงจำแบบมีความสุข ในตอนที่เป็นวัยรุ่นกันอยู่ กลับมาได้แบบเต็มที่
เปิดคอนเสิร์ตด้วยเพลง Love Theme โดย ชมพู ฟรุตตี้ จัดหนักทันที ด้วยเพลงป๊อบรุ่นเก๋าอย่าง Bad Time เพื่อนำทุกคนเข้าสู่บรรยากาศคอนเสิร์ต ต่อด้วย Talk In Your Sleep ตามด้วยอีกหลายเพลงที่คุ้นหูกันเป็นอย่างดี ก่อนที่ ป้อม ออโต้บาห์น จะปิดท้ายธีมด้วยเพลง 867-5309 Jenny ต่อด้วยเพลงในธีม OLDIES ที่มีเพลงดังอย่าง Mr. Lonely, Puppy Love และ Put Your Head On My Shoulder จากนั้น เป็นการเปิดตัวแขกรับเชิญสุดเซอร์ไพรส์ คุณบุญเกียรติ โชควัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ที่ขึ้นมาโชว์ 3 บทเพลงรวด If you love me, Can’t Help Falling In Love และ My Way ที่เสียงและลีลา ไม่ได้น้อยหน้านักร้องมืออาชีพแต่อย่างใด
ต่อด้วยเพลงในธีม BUMP ที่ นิต้า ชูก้าร์อายส์ เปิดตัวด้วยบทเพลง Dance Little Lady Dance โดยมี ป้อม ออโต้บาห์น และ ชมพู ฟรุตตี้ สลับสับเปลี่ยนกันนำเพลงดังขึ้นมาร้องอย่างสนุกสนาน ก่อนที่ นิต้า ชูก้าร์อายส์ จะปิดท้ายธีมนี้ด้วยเพลง Four Letter Words จากนั้นเข้าสู่แขกรับเชิญอีกคน นั่นก็คือ ปิง ฟรุตตี้ (กัณพล ปรีดามาโนช) ที่ขนเพลงดังอย่าง Last Train To London, I Was Made For Dancing, You May Be Right ฯลฯ และแน่นอนว่า ไม่พลาดกับบทเพลงดังของทั้งคู่ (ปิง&ชมพู) อย่าง คนข้างเคียง ที่นำขึ้นมาขับกล่อมบนเวทีด้วย ปิดท้ายด้วยเพลงดังสุดคลาสสิกของ ป้อม ออโต้บาห์น ในบทเพลง ความรัก นั่นเอง
มาถึงคิวของแขกรับเชิญคนสุดท้าย นั่นก็คือ หรั่ง ร็อคเคสตร้า (ชัชชัย สุขาวดี) ที่นำเพลงดังของวง QUEEN อย่าง Don’t Stop Me Now, Love Of My Life, I was born to love you และ Crazy little thing call love มาให้ฟังกันอย่างจุใจ รวมทั้งยังมีน้องๆ วอยซ์ อะคาเดมี่ ไทยแลนด์ ที่มาร่วมกันขับร้องบทเพลง Heal The World และ Can’t Take My Eyes Of You ก่อนที่จะพักเบรก ด้วยการมอบเงินรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย ให้กับโรงเรียนบ้านเด็กรามอินทรา (บ้านเด็กตาบอดผู้พิการซ้ำซ้อน) โดยมี คุณทัศนีย์ รัตนะ ผู้อำนวยการสำนักงานมูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์สาขากรุงเทพมหานคร เป็นตัวแทนขึ้นมารับมอบเงินในครั้งนี้
กลับเข้าสู่บรรยากาศของคอนเสิร์ตอีกครั้ง ด้วยธีม SLOW หวานน้ำตาลหยด เปิดตัวด้วย นิต้า ชูก้าร์อายส์ กับเพลง Love On Two Way Street ต่อด้วย Just Don’t Want To Be Lonely จาก ชมพู ฟรุตตี้ และอีกหลากหลายบทเพลงแบบเต็มอิ่ม
เข้าสู่ช่วงท้ายของคอนเสิร์ต ด้วยธีม DISCO (เมดเล่ย์) ที่มีทั้งบทเพลง Flash Dance, Like A Virgin, Linda Linda, Hot Stuff, Y.M.C.A. ฯลฯ ที่ทำเอาแฟนๆ เพลง พากันลุกขึ้นขยับเส้นกันอย่างสนุกสนาน เรียกว่าคุ้มค่ากับเวลาของคอนเสิร์ตกว่า 3 ชั่วโมงเต็ม ก่อนจะจบคอนเสิร์ต “ไนท์คลับ อิน เธียเตอร์” คอนเสิร์ตข้ามเวลา ลงไปด้วยความประทับใจของทุกคนอย่างสมบูรณ์แบบ
หลังจบคอนเสิร์ต ชมพู ฟรุตตี้ ตัวแทน เดอะ บิลบอร์ด (The Billboard) เล่าว่า คอนเสิร์ตในวันนี้ถือว่า ประสบความสำเร็จมาก ตอนที่ List เพลงมา ยังไม่แน่ใจว่า เอาเพลงเก่ามาเล่น แล้วจะทำให้ทุกคนสนุกไปด้วยกันตลอดตั้งแต่ต้นจนจบได้ไหม แต่ปรากฏว่า คนดูสนุกกันตั้งแต่เริ่มต้น แล้วค่อยๆ บิ้วท์จนขึ้นมาพีคสุดๆ เรียกว่าสนุกกันทุกช่วงเลย มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะทำให้คนมาเต้นกับเพลงสากล แต่เราก็สามารถทำให้เขาสนุกกับเพลงที่เขารู้จัก ไปได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นจนจบ
"สำหรับคอนเสิร์ตครั้งต่อไป แน่นอนว่า คงจะสนุกกว่านี้อย่างแน่นอน โดยวางไว้เป็นโปรเจค ไนท์คลับ อิน เธียเตอร์ ทุกๆ 3 เดือน จัดเป็นซีรีย์ๆ เพราะว่าเพลงในยุค 70, 80, 90 ยังมีอีกเยอะมากๆ ซึ่งเราจะเล่นไม่ซ้ำกัน อาจจะเปลี่ยนธีมอื่น หรือเพิ่มเติมเพลงใหม่ๆ บ้าง ทำให้เป็นเสมือนเป็นที่นัดพบกัน เป็นพื้นที่สนุกของคนที่รักเพลงในบรรยากาศของไนท์คลับ เชื่อว่า คนที่เป็นหนุ่มสาวในวัยนั้นที่ยังแข็งแรง ก็ยังอยากเที่ยว ยังอยากมีความสุขอยู่ จึงคิดว่า นี่น่าจะเป็นกิจกรรมที่มีความสุข และย้อนเวลาให้ทุกคนมีความรู้สึกชุ่มชื่นใจ กับวันที่เราเคยมีความสุข กับช่วงเวลาที่เป็นหนุ่มสาวกับบทเพลงเหล่านี้กันมา
ท้ายที่สุด ก็ฝากวง The Billboard ด้วย พวกเราเล่นประจำกันอยู่ที่ ร้าน ออโต้บาห์น คลูซีน ถ้าคิดถึงเพลงในยุค 70, 80 ก็ไปนั่งทานอาหารอร่อยๆ ฟังเพลงกัน แล้วพบกับคอนเสิร์ตครั้งต่อไปในเร็วๆ วันนี้ครับ"