Last updated: 5 ก.ย. 2567 | 385 จำนวนผู้เข้าชม |
อินทรี อีโคไซเคิล สานต่อภารกิจ “ทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้ว” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ด้วยกระบวนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีของเสียสู่หลุมฝังกลบ (Zero Waste to Landfill) ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการจัดการของเสียและดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
โดยอินทรี อีโคไซเคิลได้รับความไว้วางใจจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้ดำเนินการจัดการทั้งหมด ครอบคลุมตั้งแต่ การรับมอบ ขนย้าย ทำลาย รวมทั้งดำเนินการจัดพิธีทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยการทำลายของกลางดำเนินการที่จังหวัดสระบุรีและชลบุรี ส่วนพิธีทำลายของกลางจัดขึ้นที่ ณ กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 7 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธี
นายบรูโน ฟ๊อกซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินทรี อีโคไซเคิล จำกัด บริษัทในกลุ่มบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง กล่าวว่า “อินทรี อีโคไซเคิลมุ่งมั่นที่จะให้บริการด้านการจัดการของเสียและการบริการภาคอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน เรามีความเชี่ยวชาญในการการเปลี่ยนของเสียให้เป็นพลังงานความร้อนกลับมาใช้ใหม่หรือเชื้อเพลิงทดแทน หรือที่เรียกว่า 'Energy Recovery' เป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับองค์กรภาครัฐและเอกชน เพื่อให้บริหารการจัดการของเสียที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”
“เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับความไว้วางใจจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์อีกครั้ง การจัดการทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ตั้งแต่การขนย้ายไปจนถึงการทำลายให้สิ้นสภาพถือเป็นความรับผิดชอบที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง กระบวนการทำลายได้ดำเนินการอย่างรัดกุม ซึ่งถือเป็นปีที่ 5 ที่เรามีส่วนร่วมในปฏิบัติการสำคัญครั้งนี้” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อินทรี อีโคไซเคิล กล่าว
สำหรับขั้นตอนการทำลายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญานั้น รถบรรทุกซึ่งติดตั้งระบบติดตาม GPS และซีลนิรภัยจะทำการขนย้ายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาไปยังสถานที่ทำลาย ของกลางเหล่านี้จะถูกคัดแยกและบดย่อยให้สิ้นสภาพ ก่อนที่จะนำไปเผาร่วมกับเชื้อเพลิงหลักในเตาเผาปูนซีเมนต์ที่อุณหภูมิสูงกว่า 1,800 องศาเซลเซียส เทคโนโลยีนี้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน สามารถนำพลังงานความร้อนกลับมาใช้ใหม่ได้ พร้อมช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพของชุมชนและสิ่งแวดล้อม โดยกระบวนการนี้จะไม่มีขยะไปสู่หลุมฝังกลบ หรือ Zero Waste to Landfill การดำเนินการทั้งหมดได้รับการตรวจสอบโดยระบบวงจรปิด โดยใช้เทคโนโลยี RFID เพื่อติดตามรถบรรทุกทั้งหมดภายในโรงงาน ทำให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและการควบคุมในระดับสูงสุด