"มหิดลพลิกโฉมสู่อนาคต มุ่งสู่ Real World Impact ดันไทยเป็นศูนย์กลาง Cell & Gene Therapy ยกระดับวงการแพทย์สู่ระดับโลก

มหาวิทยาลัยมหิดลประกาศทรานส์ฟอร์มครั้งสำคัญ เพื่อเป็นผู้นำด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพและสุขภาวะองค์รวมระดับโลก เดินหน้าขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยด้วย 3 กลไกหลัก ได้แก่ “From Research Lab to Commercialization” ผลักดันงานวิจัยสู่การใช้จริง “From Education to Real World Impact” ปรับรูปแบบการศึกษาให้ตอบโจทย์โลกอนาคต และ “From Community Engagement to Real World Impact” สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม

ศาสตราจารย์ ปิยะมิตร ศรีธราชี้ให้เห็นว่าปัจจุบันโลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน 6 มิติ ได้แก่   สังคมสูงวัย: ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุขั้นสุด (Super Aging) ภายใน 8 ปี ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรและระบบสุขภาพอย่างมาก   การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี: การขับเคลื่อนด้วย AI และเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีผลกระทบต่อทุกภาคส่วน   ภูมิรัฐศาสตร์โลก: ทิศทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมที่ถูกกำหนดโดยปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์  การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: ส่งผลกระทบรุนแรงต่อความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของประชาชน   พฤติกรรมคนรุ่นใหม่ และ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร: เน้นการทำงานแบบ Data-Driven และขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม  โดยได้รับการจัดอันดับ THE Impact Ranking ติดอันดับ 1 ของไทย และด้าน SDG3: Good Health & Well-Being อยู่ในอันดับที่ 3 ของโลก  รับการจัดอันดับ QS Ranking ให้อยู่ในอันดับที่ 1 ในประเทศไทย รวมถึงความโดดเด่นในสาขาดนตรีที่ติดอันดับที่ 28 ของโลกซึ่งเป็นปัจจัยที่มหาวิทยาลัยมหิดลต้องปรับตัวสู่ยุคใหม่ เพื่อสร้าง Academic Impact และ Real World Impact ที่ยกระดับคุณภาพชีวิตและสุขภาวะประชาชน สอดคล้องกับเป้าหมาย SDGs และมุ่งสู่การเป็น World-Class University ด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพและสุขภาวะแบบองค์รวม

เป้าหมายของมหาวิทยาลัยไม่ได้จำกัดอยู่ที่การสร้าง Academic Impact เท่านั้น แต่ยังมุ่งสู่การสร้าง “Real World Impact”  ในทุกมิติ ผ่าน 3 กลไกหลัก ได้แก่

From Research Lab to Commercialization – ผลักดันงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ พัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ เช่น โรงงานยาที่มีชีวิต (MU-Bio Plant) และ Cell & Gene Therapy

From Education to Real World Impact – ปรับรูปแบบการศึกษาให้ตอบโจทย์อนาคต มุ่งสร้างบัณฑิตที่มีทักษะพร้อมทำงานจริง ผ่าน Hybrid Programs, Micro-Credentials และ Lifelong Learning

From Community Engagement to Real World Impact – นำองค์ความรู้สู่การพัฒนาสังคม เช่น โครงการลดอุบัติเหตุทางถนน และ โครงการ “9 to Zero” ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายใน 9 ปี

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยมหิดลยังมุ่งยกระดับระบบสาธารณสุขไทย ด้วยการผลักดันไทยสู่ ศูนย์กลางเซลล์บำบัดและยีนบำบัด (Cell & Gene Therapy) ระดับอาเซียน พัฒนา โรงงานยาที่มีชีวิต (MU-Bio Plant) รองรับการรักษาโรคร้ายแรง เสริมศักยภาพการแพทย์ด้วย AI + Health Care และสร้าง Startup Ecosystem ผลักดันสตาร์ตอัปด้าน Health Tech ไทยสู่ระดับ Unicorn

พร้อมเสริมศักยภาพระบบสาธารณสุขไทยด้วย AI & Health Care และผลักดัน Health Tech Startup ไทยสู่ระดับ Unicorn สร้างระบบนิเวศนวัตกรรมครบวงจร เป้าหมายคือยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนและขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ศูนย์กลางทางการแพทย์ระดับโลก

มหาวิทยาลัยมหิดล ถือเป็นต้นแบบที่สะท้อนถึงความสำเร็จครอบคลุมหลายมิติจากหลายๆ โครงการ ที่เริ่มจากงานวิจัยจนนำมาสู่การต่อยอดให้เกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรม ตอกย้ำเป้าหมายการเป็น Mahidol University For Real World Impact ในการเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านการวิจัยและสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพและสุขภาวะองค์รวมระดับโลกได้อย่างแท้จริง